โรคมือเท้าปากในเด็ก

https://aikchol.com/upload/health-info/health-info-31072025-094511.jpeg

เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในกลุ่มเอนเทอโรไวรัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งไวรัสคอกซากี และเอนเทอโรไวรัส 71 หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า EV71 ค่ะ โรคนี้มักพบในเด็กเล็กต่ำกว่า 5 ขวบเป็นส่วนใหญ่

อาการของโรคมือเท้าปากเป็นอย่างไร?
อาการเริ่มต้นจะคล้ายไข้หวัดทั่วไป คือมี ไข้ อาจจะสูงหรือไม่สูงก็ได้ มีอาการ เจ็บคอ และอาจจะ เบื่ออาหาร หลังจากนั้นประมาณ 1-2 วัน จะเริ่มมี ตุ่มแดงเล็กๆ หรือ ผื่น ที่อาจกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ หรือแผลได้ ตำแหน่งที่พบบ่อยคือที่ ช่องปาก โดยเฉพาะเพดานปาก ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม ซึ่งทำให้เด็กเจ็บมาก ทานอะไรไม่ได้ และก็จะมีตุ่มขึ้นที่ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และบางรายอาจจะพบที่ ก้น หรือ หัวเข่า ด้วย

โรคนี้ติดต่อกันได้อย่างไร?
โรคนี้ติดต่อกันได้ง่ายมาก โดยหลักๆ แล้วจะติดต่อผ่านการสัมผัสโดยตรงกับ สารคัดหลั่ง ของผู้ป่วย เช่น น้ำมูก น้ำลาย หรือ อุจจาระ รวมถึง น้ำในตุ่มพอง ที่แตกออก เด็กๆ มักจะติดเชื้อจากการนำมือที่เปื้อนเชื้อเข้าปาก การเล่นของเล่นร่วมกัน การไอหรือจามรดกันในที่ที่มีคนอยู่รวมกันเยอะๆ อย่างสถานรับเลี้ยงเด็กหรือโรงเรียนอนุบาล

โรคนี้มีภาวะแทรกซ้อนที่ต้องระวังไหม?
ส่วนใหญ่จะหายได้ภายใน 7-10 วัน อาจมีภาวะไข้สูง และภาวะขาดน้ำได้ แต่สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือในบางราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดเชื้อไวรัส EV71 ค่ะ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เช่น สมองอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือ ปอดอักเสบ
ถ้าสังเกตเห็นว่าเด็กมีอาการไข้สูง ทานไม่ได้ ปัสสาวะออกลดลง ดูเพลีย ซึมลง อ่อนแรง ชัก มีอาการกระตุก หายใจหอบ หรืออาเจียนไม่หยุด ควรรีบพาไปโรงพยาบาลทันที เพราะนั่นคือสัญญาณอันตราย

เราจะป้องกันโรคมือเท้าปากได้อย่างไร?
การป้องกันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ เราสามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
1.ล้างมือให้สะอาด: ล้างมือด้วยสบู่และน้ำบ่อยๆ ทั้งตัวเด็กเองและผู้ปกครอง โดยเฉพาะหลังเข้าห้องน้ำ หลังเปลี่ยนผ้าอ้อม และก่อนทานอาหาร
2.ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน: สอนลูกให้ไม่ใช้แก้วน้ำ ช้อนส้อม หรือของเล่นร่วมกับผู้อื่น
3.ทำความสะอาดของเล่นและพื้นผิว: หมั่นทำความสะอาดของเล่นและพื้นผิวที่เด็กสัมผัสบ่อยๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
4.แยกเด็กป่วย: หากพบว่าเด็กมีอาการป่วย ควรรีบแยกเด็กออกจากเด็กคนอื่นๆ และให้พักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายดี เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย
5.หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด: ในช่วงที่มีการระบาด ควรหลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน
6.ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อมือเท้าปาก ที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง สายพันธุ์ EV71 ซึ่งมีประสิทธิภาพดีและผลข้างเคียงน้อยมาก ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน จนถึงไม่เกิน 6 ปี 2 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน

โรคมือเท้าปากเป็นโรคที่ป้องกันได้ หากเราใส่ใจในเรื่องสุขอนามัย และหมั่นดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด การสังเกตอาการและรีบปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยหรือไม่สบายใจ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ลูก ๆ ของเราปลอดภัยจากโรคนี้

สุขภาพน่ารู้