การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือ ซีทีสแกน (CT Scan)

https://aikchol.com/upload/health-info/health-info-31072025-095140.jpeg

เป็นการตรวจที่มีความซับซ้อนมากกว่าการเอกซเรย์แบบธรรมดา โดยจะฉายรังสีเอกซเรย์ไปยังบริเวณที่ต้องการตรวจ เพื่อดูอวัยวะภายใน และทำการตรวจ วินิจฉัยโรคที่ซับซ้อน แล้วใช้คอมพิวเตอร์ประมวลผล ออกมาเป็นภาพ 3 มิติ ที่ให้รายละเอียดได้ถูกต้อง แม่นยำ สามารถมองเห็น อวัยวะภายในร่างกายได้เกือบทุกส่วน และใช้เวลาตรวจไม่นาน ทำให้มีความสะดวกและรวดเร็ว ไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด

CT Scan สามารถตรวจอะไรได้บ้าง?
• ตรวจหาเนื้องอกในอวัยวะต่าง ๆ ทั้งตำแหน่งและขนาดของเนื้องอก
• ตรวจหาการแพร่กระจายของเนื้องอกไปยังต่อมน้ำเหลืองหรืออวัยวะที่ใกล้เคียง
• ตรวจหาความผิดปกติของหลอดเลือด เช่น เส้นเลือดโป่งพอง เส้นเลือดอุดตัน
• ตรวจหาความผิดปกติของกระดูกและข้อต่อต่างๆ เช่น การหัก การหลุดเคลื่อน และการอักเสบ
• ตรวจดูการคั่งของเลือดในสมอง ช่องท้อง และอุ้งเชิงกราน

การเตรียมตัวก่อนตรวจ CT scan
• กรณีที่ไม่ต้องฉีดสารทึบรังสี สามารถนัดตรวจได้เลย
• กรณีที่ต้องฉีดสารทึบรังสี
  *ต้องงดน้ำและอาหาร 4-8 ชั่วโมง ก่อนการตรวจ
  *เจาะเลือดเพื่อตรวจค่าการทำงานของไตเพื่อเลือกสารทึบรังสีที่เหมาะสมในการตรวจ
  *ทำการเปิดเส้น IV สำหรับใช้ในการฉีดสารทึบรังสี
• สตรีที่สงสัยว่าจะตั้งครรภ์ ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนเข้ารับการตรวจ เนื่องจากการตรวจทางรังสีมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์
• ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ โรคไต โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ และควรมีญาติมาด้วยอย่างน้อย 1 ท่าน
• ในผู้ป่วยเด็กที่ไม่สามารถอยู่นิ่ง ๆ ได้ แพทย์อาจจำเป็นต้องให้ยาระงับความรู้สึกหรือดมยาสลบขณะตรวจ เพื่อให้ผลการตรวจวินิจฉัยโรคออกมาถูกต้องมากที่สุด

ขั้นตอนขณะรับการตรวจ CT scan
• เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบ ชื่อ-นามสกุล และส่วนตรวจที่แพทย์สั่งตรวจ และทำการซักประวัติผู้ป่วย ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวขณะตรวจ และลงชื่อ ในใบยินยอมให้แพทย์ทำการตรวจ รวมถึงชี้แจงข้อมูลที่ผู้ป่วยจำเป็นต้องรับทราบเกี่ยวกับการตรวจ เช่น ผลของสารทึบรังสีที่ฉีดเข้าทางหลอดเลือด/ความรู้สึกที่อาจเกิดขึ้นขณะฉีด
• ในกรณีที่ผู้ป่วยตรวจภายในช่องท้อง อาจจำเป็นต้องดื่มสารทึบรังสีหรือน้ำเปล่าที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้ประมาณ 1 ลิตร ก่อนเข้าห้องตรวจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการตรวจและในกรณีที่ผู้ป่วยทำการตรวจ ช่องท้องส่วนล่างอาจจะได้รับการสวนสารทึบรังสี เข้าทางทวารหนัก ประมาณ 500-1,000 ซีซี
• เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องตรวจเตรียมไว้ให้ และถอดเครื่องประดับออกจากบริเวณที่ต้องการตรวจ
• เจ้าหน้าที่หรือนักรังสี จัดท่าของผู้ป่วยให้เหมาะสมกับประเภทการตรวจ
• ในระหว่างการตรวจจะได้ยินเสียงดังจากเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ผู้ป่วยควรนอนให้นิ่งและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่หรือนักรังสีเทคนิคอย่างเคร่งครัด
• หากมีอาการผิดปกติ เช่น แน่นหน้าอก หายใจลำบาก มีผื่นคัน คลื่นไส้อาเจียน ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่หรือพยาบาลให้ทราบทันที

สุขภาพน่ารู้